คนส่วนใหญ่มักจะลืมกันไปว่า นอกจากเดือนเมษาจะมีช่วงวันหยุดวันสงกรานต์แล้วนั้น ในวันที่ 13 เมษายน ของทุุกปีคือวันผู้สูงอายุของเรานั่นเองค่ะ ทางทีมงาน M2G Family Store จีงขอเอาบทความนี้มาฝากค่ะ "เทคนิคการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในวัยเกษียณ" เรื่องนี้จำเป็นมากสำหรับผู้ที่กำลังเข้าสู่วัยเกษียณก็ดี หรือสำหรับลูกหลานที่มีผู้ใหญ่ที่กำลังเข้าวัยเกษียณก็ดีค่ะ
ในวัยเกษียณจะมีการปรับเปลี่ยนแผนใช้ชีวิตแต่ละวันไปจากเดิม เนื่องจากในวัยทำงานก็จะต้องทำงานอย่างน้อยสัปดาห์ละห้าวัน และมีสังคมเพื่อนฝูงที่ต้องมีความเกี่ยวข้องกันมากมาย หลังจากเกษียณแล้วผู้สูงอายุจะมีเวลาที่จะอยู่กับตัวเองมากขึ้น เนื่องจากงานลดลงและการออกสังคมที่เกี่ยวข้องกับการทำงานก็อาจจะลดลงเช่นเดียวกัน ถ้าไม่สามารถปรับตัวได้ จะทำให้มีความเครียดหรือเป็นโรคซึมเศร้าได้
ในบทความนี้ เราได้รวบรวมเทคนิคการสร้างความสุขในวัยเกษียณที่ผู้สูงอายุทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้มาฝากกัน ดังนี้ค่ะ
- เปลี่ยนมุมมอง ต้อนรับการเปลี่ยนแปลง และมองโลกในแง่ดี
หลายท่านอาจจะคิดว่า เมื่อเกษียณแล้ว กลัวจะเหงา ไม่มีอะไรทำ กลัวที่จะเบื่อ หรือคิดว่าชีวิตหรือตัวคุณเองจะหมดคุณค่า แต่ในทางกลับกัน หากเราต้อนรับตัวเองเข้าสู่วัยเกษียณด้วยทัศนคติที่มีการยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงนั้น เราจะเริ่มสามารถถอยออกมามองคุณค่าของการใช้ชีวิตนอกเหนือจากการทำงานมากขึ้น และมีความสุขกับวัยเกษียณได้ทุกวัน
การมองย้อนกลับไปในอดีต ถึงเรื่องดีๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตและเราได้ประสบความสำเร็จกับมัน *เน้นว่าเรื่องดีๆเท่านั้นค่ะ* ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงาน เรื่องครอบครัว เรื่องเพื่อนพ้อง ต่างๆ จะทำให้เรายอมรับ ยินดีกับตัวเอง และปล่อยวางกับเรื่องที่ไม่ดีที่ผ่านเข้ามา เพื่อเตรียมพร้อมจิตใจเข้าวัยเกษียณได้อย่างมีความสุข ทุกอย่างขึ้นอยู่กับมุมมองและการยอมรับความจริงของคุณค่ะ
- เห็นคุณค่าของเวลาหลังเกษียณ
ข้อนี้อาจจะคล้ายกับข้อแรก แต่เป็นการมองลึกลงไปอีกชั้นว่าพอเกษียณและยอมรับมันแล้ว คุณต้องอย่าอยู่นิ่ง ชีวิตยังไม่ได้จบอยู่เพียงแค่หลังจากชีวิตการทำงานจบลง ในวัยหลังเกษียณคุณก็อาจจะใช้เวลานี้ให้มีคุณค่าเพื่อตัวเองและครอบครัว หาเป้าหมายชีวิตใหม่ เช่นอาจจะกลับมาทำงานอดิเรกที่ชอบอีกครั้ง เช่น การวาดรูป เล่นดนตรี อ่านหนังสือ การออกกำลังกายนอกบ้าน หรือการมีเวลาอยู่กับหลาน และสัตว์เลี้ยง ฯลฯ จึงควรใช้โอกาสนี้ทำสิ่งที่ต้องการ เพื่อทำให้มีความสุขและไม่หมกมุ่นเกับเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดี
- การอยู่ในที่ที่อากาศปลอดโปร่งและบรรยากาศดี
บรรยากาศและสภาพแวดล้อมมีผลมากต่อความรู้สึกและอารมณ์ เทคนิคที่ทำให้มีความสุขได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ การออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าน ในสวนสาธารณะ หรือในที่ๆมีบรรยากาศร่มรื่น จะทำให้ผู้สูงอายุวัยเกษียณเข้าถึงธรรมชาติได้มากขึ้นทำให้รู้สึกสดชื่นปลอดโปร่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆ ต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจในระยะยาว ทำให้โรคภูมิแพ้ หอบหืด ความดัน เบาหวาน ไขมันสูง ซึ่งมักจะเป็นบ่อยในวัยเกษียณดีขึ้นด้วย
- การใช้ชีวิตอยู่โดยการใช้เงินเกษียณ หรือว่าเงินเก็บที่มี
การวางแผนเรื่องการเงินเพื่อเตรียมพร้อมเนิ่นๆก่อนเข้าวัยเกษียณเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อที่จะทำให้เงินนั้นสามารถใช้ได้ต่อไปได้ยาวนาน ควรแบ่งสัดส่วนเงินไว้ใช้ในการดูแลสุขภาพ ใช้จ่ายขั้นพื้นฐาน หรือถ้าเหลือแบ่งปันให้ลูกหลานได้ ซึ่งจะทำให้ผู้สูงวัยรู้สึกมีความสุข เพราะรู้สึกว่ามีคุณค่าเป็นที่พึ่งพาของลูกหลานและครอบครัวได้
- แบ่งเวลาทำกิจกรรมเพื่อสังคม อย่างเช่น การเป็นอาสาสมัครในวัยเกษียณ เพื่อนำวิชาความรู้ไปบรรยายให้ผู้ที่ต้องการ เช่น กลุ่มพัฒนาอาชีพ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส เพราะจะทำให้ผู้สูงวัยได้เปลี่ยนบรรยากาศ และมีความสุขที่ได้ถ่ายทอดความรู้ให้เกิดประโยชน์แก่สังคม
จากเทคนิคที่กล่าวมา เป็นสิ่งที่ผู้ที่กำลังจะเข้าวัยหลังเกษียณ และผู้สูงอายุทุกคน สามารถนำไปปรับใช้ได้ทุกวัน ไม่จำเป็นว่าหลังเกษียณแล้วจะต้องอยู่แต่ในบ้านหรือเห็นแต่สิ่งแวดล้อมแบบเดิม ๆ จนทำให้กลายเป็นโรคซึมเศร้า สมองเสื่อม โรคเครียด ฯลฯ
ส่วนลูกหลานก็ควรจะมีเวลาให้ผู้สูงอายุอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 วัน เพื่อให้มีเวลาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้สูงอายุกับลูกหลานเป็นประจำ นอกจากนี้ ลูกหลานก็ควรช่วยส่งเสริมความสุขให้แก่ผู้สูงอายุวัยเกษียณในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ช่วยหาซื้อสิ่งของสำหรับงานอดิเรก ไปออกกำลังกายด้วยกัน ร่วมทำกิจกรรมอาสาสมัครเพื่อสังคม ขับรถรับส่งเป็นประจำ ฯลฯ ซึ่งจะทำให้เกิดความสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วย