ลูกของเราควรรับวัคซีนป้องกันอะไรบ้าง?

วัคซีนสำหรับเด็กนั้น แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
1. วัคซีนพื้นฐาน: เป็นวัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้ผู้ปกครองต้องพาลูกไปฉีดทุกคนที่โรงพยาบาลรัฐทั่วไป มีดังนี้ 
(1) วัคซีน BCG หรือ Bacillus Calmette Guerin vaccine ใช้สำหรับป้องกันโรควัณโรค 
(2) วัคซีน HBV หรือ Hepatitis B vaccine สามารถป้องกันโรคตับอักเสบจากไวรัสตับอักเสบชนิดบี ฉีดให้เข็มแรกภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด
(3) วัคซีน DTwP เป็นวัคซีนรวม สำหรับป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก และโรคตับอักเสบจากไวรัสตับอักเสบชนิดเอ 
(4) วัคซีน OPV หรือ Oral Polio vaccine เป็นแบบหยอดทางปาก สำหรับป้องกันโรคโปลิโอ 
(5) วัคซีน JE หรือ Japanese Encephalitis Vaccine ใช้ป้องกันโรคไข้สมองอักเสบ
(6) วัคซีน MMR หรือ Measles Mumps Rubella Vaccine ช่วยป้องกันโรคหัด คางทูมและหัดเยอรมัน

2. วัคซีนเสริม: เป็นวัคซีนที่ไม่ได้มีข้อกำหนดจากกระทรวงสาธารณสุขให้เด็กฉีดเพื่อป้องกันโรคทุกคน แต่แนะนำให้ฉีดในช่วงที่มีโรคระบาดหรือลดความเสี่ยงเป็นโรค มีดังนี้ 
(1) วัคซีน Hib สำหรับป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
(2) วัคซีน PCV หรือวัคซีนป้องกันโรคปอดบวม 
(3) วัคซีนป้องกันเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เช่น ยี่ห้อ Prevnar และ Synflorix
(4) วัคซีนโรต้า สำหรับป้องกันอาการท้องเสียจากเชื้อโรต้าไวรัส
(5) วัคซีนไข้หวัดใหญ่ Vaxigrip แพทย์แนะนำให้เด็กฉีดก่อนเข้าช่วงฤดูฝนที่โรคไข้หวัดใหญ่จากเชื้อไวรัสระบาด (ซึ่งแต่ละปีจะมีความรุนแรงของสายพันธุ์ไม่เหมือนกัน) 
(6) วัคซีนไข้อีสุกอีใสหรือ Varilrix สามารถป้องกันการป่วยติดเชื้อไวรัสอีสุกอีใสได้ 99% 
(7) วัคซีน HAV สำหรับป้องกันโรคตับอักเสบ ที่ทำให้มีอาการตับอักเสบเฉียบพลัน ตัวเหลือง ตาเหลือง คลื่นไส้ อาเจียน (สามารถติดต่อกันได้ทางอาหารและน้ำดื่มไม่สะอาด
(8) วัคซีน Cervarix หรือ Gardasil ป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง และโรคหูดหงอนไก่ในผู้ชาย ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อกันได้จากการมีเพศสัมพันธ์

จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันมีความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่จะผลิตวัคซีนที่หลากหลาย สำหรับป้องกันโรคต่าง ๆ ได้มาก การที่ผู้ปกครองใส่ใจพาเด็กไปฉีดวัคซีนให้ครบถ้วนโดยเฉพาะแบบพื้นฐาน จึงมีประโยชน์ต่อเด็กมากในการที่จะทำให้ลดความรุนแรงของการติดเชื้อที่ทำให้เด็กพิการ เสียชีวิต หรือเป็นโรคเรื้อรังที่มีค่ารักษาพยาบาลสูงและรักษายาก