"เครียดจัง ลูกไม่อยากไปโรงเรียน" By M2G Knowledge
เด็กบางครั้งก็ไม่อยากไปโรงเรียน มีงอแงบ้าง ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเป็นปัญหา แต่จะส่งผลและเกิดปัญหาได้ เมื่อมีการแสดงออกร้องไห้ งอแง หรือดื้อ เพราะไม่อยากไปโรงเรียนบ่อยๆ โดยครอบครัวของให้ความใส่ใจในเรื่องนี้ เนื่องจากการที่เด็กไม่อยากไม่โรงเรียนมีหลายสาเหตุที่ควรระวังและในทุกสาเหตุสามารถแก้ให้และปรับพฤติกรรมลูกได้
วิธีการรับมือและแก้ไขพฤติกรรมหรือสิ่งผิดปกติเมื่อลูกไม่อยากไปโรงเรียน
1. คุยกับลูกอย่างใจเย็น ไม่ดุว่า ใช้เหตุผลในการคุย ถามสาเหตุในการไม่อยากไปโรงเรียนว่าเป็นเพราะตัวเด็กหรือเป็นเพราะสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ในโรงเรียน หากเป็นเพราะตัวเด็กในการปรับตัว ในด้านความคิด หรือด้านพัฒนาการ ทางผู้ปกครองจะได้มาปรับที่ตัวเด็ก แต่หากเป็นที่สิ่งแวดล้อม อาจมีข้อสงสัยบางประการที่เด็กได้รับจากครูหรือเพื่อนๆ ของเด็กที่หากส่งผลต่อจิตใจ หรือร่างกาย แบบหลังต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษและไปพบครูเพื่อปรึกษาหาแนวทางแก้ไขร่วมกันหรืออาจเป็นพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ที่เด็กได้รับจากคนที่โรงเรียนตามข่าวที่มีก็เป็นได้ ทั้งนี้ผู้ปกครองไม่ควรวิตกเกินไปใช้การคุย การสังเกตุ ดูร่างกาย รอยบาดแผลประกอบอย่างใช้สติ หากดูสุ่มเสี่ยงอันตรายอาจพาลูกไปพบจิตแพทย์เด็กเพื่อช่วยในการค้นหาความจริงเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย (กรณีดังกล่าวมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยแต่พ่อแม่ก็ไม่ควรละเลย หากมีพฤติกรรมผิดปกติมากเกินไป หรือ มีการบาดเจ็บทางร่างกายประกอบ)
2. เมื่อทราบเหตุผลแล้วมาแก้ให้ตรงจุด ย้ำว่าควรใช้ความใส่ใจและความเข้าใจเป็นหลัก โดยเหตุผลข้อแรกอาจมาจากตัวเด็กเองติดสบาย ไม่อดทน ทางผู้ปกครองก็ต้องปรับพฤติกรรมด้วย หากสาเหตุมาจากเรื่องนี้ด้วย โดยการไม่สปอยลูกมากเกินไป ฝึกให้ลูกรู้จักการรอคอยกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ ฝึกให้ลูกรู้จักทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง ทั้งนี้ค่อยๆ ฝึกพร้อมอธิบายเหตุผลให้การฝึกฝนและพยายามหาข้อดีในการไปโรงเรียนให้ลูกเข้าใจจนเขาเริ่มปรับตัวได้ดีและไม่แสดงพฤติกรรมในเชิงลบอีก
3. ลูกไม่อยากไปโรงเรียนเพราะพัฒนาการช้า เรียนไม่ทันเพื่อน ไม่เข้าใจที่ครูสอน หากเกิดจากสามารถเหตุนี้อาจดูว่าลูกอ่อนวิชาไหน หรือ ภาพรวมตามไม่ทันทั้งหมดเพื่อดูว่าสามารถสอนเพิ่มเติม หรือเรียนเพิ่มเติมได้ไหม โดยทั้งนี้เด็กอาจจะแค่ไม่เข้าใจและตามไม่ทันหรืออาจจะเป็นเพราะสมองที่มีพัฒนาการช้า หากเป็นแบบหลังอาจจะต้องมีการไปปรึกษาจิตแพทย์เด็กเพื่อแนะนำ โดยสาเหตุจากการเรียนไม่ทัน ไม่เข้าใจ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรกดดันเด็กแต่ควรเสริมแรงบวกให้ลูกด้วยการให้กำลังใจ ใส่ใจ พัฒนาเขาให้เกิดความสนุกกับการเรียนและให้เขาเข้าใจว่าหากลูกตั้งใจเต็มที่แล้ว ผลออกมาอย่างไรพ่อแม่ก็ภูมิใจเขา พ่อแม่รักลูกที่ลูกใส่ใจเรียนไม่ใช่ผลการเรียน ไม่เปรียบเทียบลูกเรื่องเรียนกับเด็กคนอื่นให้ลูกกดดัน ส่งเสริมให้เขามีกำลังใจและพัฒนาตามขีดความสามารถที่เขามี แค่นี้ลูกก็จะไปเรียนอย่างมีความสุข
4. เวลาลูกไปเรียนรุ้สึกไม่ตื่นเต้น ไม่ท้าทาย ไม่อยากรู้อะไร แบบนี้เป็นสาเหตุตรงกันข้ามกับข้อสาม เนื่องจากเด็กอาจมีพัฒนาการที่ไว หรือเด็กไม่มีความใส่ใจการเรียน วิธีการแก้ต้องคุยปรับพฤติกรรมให้เข้าใจว่าทำไมเราต้องเรียนรู้ในสิ่งที่เราเข้าใจแล้ว ทำไมบางเรื่องเข้าต้องรู้ซ้ำๆ และชี้มุมมองที่ท้าทาย มุมที่น่าสนใจให้เด็กเห็นเพื่อให้เขาค่อยๆ คล้อยตามและสนใจ พ่อแม่ต้องใช้เวลาอย่างใจเย็น หากลูกดื้อไม่ฟังเพราะเขาจะมีเหตุผลที่เขาเชื่อ ดังนั้นบางครั้งอาจต้องยกหรือจำลองสถานการณ์ให้เขาเห็นให้เขารับรู้นั่นเอง ส่วนเด็กเกียจคราญไม่ใส่ใจเรียนให้ปรับด้วยเหตุผลว่าเพราะเหตุใดเขาต้องรักในสิ่งที่เขาทำและให้เขารู้ว่าต้องทำตามหน้าที่ พ่อแม่ไม่ได้กดดันหรือคาดหวังผลที่ออกมาแต่อยากให้เขาทำเพื่อตัวเขาเองแบบมีความสุข
5. ปรับตัวเขากับสังคมและปรับตัวเพื่อความพร้อมในการไปโรงเรียนไม่ได้ กรณีนี้จะแตกต่างกับข้อแรก เนื่องจากเป็นที่ตัวของเด็กไม่สามารถปรับตัวในการเรียนตัวเข้าเรียนไม่ได้ ตื่นเช้าไม่ได้ ไปเรียนทุกวันไม่ได้ ไปโรงเรียนแล้วไม่สามารถเข้ากับเพื่อนได้ เล่นกับเพื่อนไม่ได้ ไม่กล้าพูดคุยกับครู ไม่ชอบการใส่ใจของครู ผู้ปกครองต้องถามเหตุผลว่ามาจากจุดไหน เด็กบางคนไปขอเข้ากลุ่มกับเพื่อนแล้วเพื่อนๆ ไม่ยอมรับหรือเด็กบางคนไม่กล้าแม้แต่ขอเข้ากลุ่มกับเพื่อน เมื่อพ่อแม่ทราบสาเหตุแล้ว หากเป็นที่การเข้ากลุ่มพ่อแม่อาจพาลูกไปพบปะเพื่อนใหม่ๆ ฝึกให้ลูกทำกิจกรรม ฝึกเข้าสังคม โดยเริ่มแรกพ่อแม่อาจต้องพาไปในกิจกรรมที่มีผู้ปกครองไปด้วย สอนวิธีการพูดคุยกับเพื่อน สอนการเข้าหาเพื่อน การเสียสละ การแบ่งปัน การเข้ากลุ่มเพื่อให้ลูกปรับตัวและกล้าที่จะเข้ากลุ่ม แต่สาเหตุมาจากหากปรับตัวเรื่องเวลาการไปเรียนไม่ไหว พ่อแม่อาจมีการจัดตารางเวลาให้ลูกและอาจให้ลูกนอนไวเพื่อให้สามารถตื่นเช้าไปโรงเรียนไหวหรืออาจดูเรื่องระยะทางการเดินทางไปโรงเรียนไกลเกินไปไหม ควรย้ายโรงเรียนไหม หรือลูกเดินทางไปกลับแต่ละวันเหนื่อยไปไหม เป็นต้น
M2G Family Store นำเรื่องสาเหตุหลักๆ ที่เด็กๆ มักจะเกิดอาการไม่อยากไปโรงเรียนซึ่งจะเห็นได้ว่ามีสาเหตุที่หลากหลาย บางอย่างก็ไม่ได้เกิดกับตัวเด็กเอง บางอย่างก็ไม่ใช่เพราะความเกียจคราญของเด็ก ดังนั้นพ่อแม่อย่าด่วนตัดสินใจลงโทษเด็ก เรื่องราวที่อาจแก้ไขได้อาจกลายเป็นปมและทำให้เด็กยิ่งไม่อยากเรียนหนังสือ คุณพ่อคุณแม่ต้องใส่ใจรายละเอียดเพื่อลูก ทุกอย่างมีทางออกเสมอ เราเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวค่ะ
สนใจของเล่นเสริมทักษะและพัฒนาการทุกช่วงวัย สามารถคลิกชมของเล่นคุณภาพของ M2G ได้นะคะ
#ครอบครัวอบอุ่น #ของเล่นเสริมทักษะ #ของเล่นคุณภาพ #M2GFamilyStore #คุณพ่อคุณแม่ไอดอล
#แก้ปัญหาลูกไม่อยากเรียน #ไม่อยากไปโรงเรียน #พัฒนาEQ #สร้างพฤติกรรมเชิงบวก